ต้นสนฉัตร หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกกันว่า “House Pine/Norfolk Island Pine” เป็นต้นไม้ที่ถูกนำมาตกแต่งในงานคริศมาสต์จนหลายๆคนเรียกอีกชื่อว่า “ต้นคริสต์มาส “ไปแล้ว และกลายเป็นต้นไม้คริสต์ในหลายๆ ประเทศ และในประเทศไทยของเราก็เช่นเดียวกัน
นอกจากนั้นแล้วในประเทศไทยเรายังมีความเชื่อในเรื่องของการเป็นไม้มงคลประจำบ้านอีกด้วย โดยเป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมปลูกไว้ในตำแหน่งหน้าบ้าน เพราะจะทำให้เกิดความสนใจแก้คนที่ผ่านไปผ่านมาได้ดับเห็ฯ ด้วยลักษณะรูปทรงที่มีความเป็นเอกลักษณ์ แตกกิ่งแยกออกเป็นชั้นๆ คล้ายกับฉัตร ทำให้ใครที่ได้เห็นมักจะจ้องมองและเกิดความสนใจ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนำไปปลูกหน้าร้านต่างๆ ก็ยิ่งเพราะความสนใจเหมือนกับมีแรงดึงด้วยให้คนอยากหันมามองร้านของคุณนั่นเอง ด้วยเหตุนี้ต้นไม้ชนิดนี้จึ่งได้ถูกเปรียบว่าเป็นต้นไม้ที่มีแรงดึงดูจุดสนใจ ใครผ่านไปผ่านมาก็มองเห็นในสิ่งที่ดีงาม และนอกจากนั้นแล้วด้วยการมีทรงพุ่มลักษณะเหมือนกับฉัตรที่ใช้ในพิธีแห่เกียรติยศ และลักษณะการเจริญของลำต้นกิ่งก้านเด่นชัด สง่างาม
ราคาต้นสนฉัตรแบบเพาะชำด้วยกึ่งความสูงไม่เกิน 1 เมตร ราคาจะอยู่ที่ประมาณหลักร้อยปลายๆ และสูงขึ้นเรื่อยตามความสูงตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่น ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสูง อายุ ขนาดและความสมบูรณ์ข้องต้น
สำหรับสนฉัตรเป็นต้นที่มีต้นกำเนิดมาจากทวีปออสเตรเลียแถบคราบสมุทรแปซิฟิก และแถบอเมริการใต้ เป็นต้นไม้ขนาดใหญ่ที่นิยมมาปลูกสำหรับจัดส่วนในบ้านเรา โดยการขนาดพันธ์จะใช้วิธีการเพาะเมล็ด มีความสูงของต้นได้สูงถึง 45-60 เมตร แต่ที่นิยมขายกันในตลาดประเทศไทยเราจะมีความตั้งแต่ 1-15 เมตร ซึ่งราคาก็จะแตกต่างกันตามความสูงของต้นและความสมบูรณ์ของกิ่งก้านใบ เป็นพื้นที่ต้องการความชื้นสูง ดินที่ปลูกต้องเป็นเดินที่ระบายน้ำได้เป็นเป็นอย่างดี จึงจะเจริญเติมโตได้อย่างสมบูรณ์และสวยงาม
- ชื่อทางวิทยาศาสตร์: Araucaria heterophylla (Salisb.) Franco
- วงศ์: Araucariaeae
- ประเภท: มีอายุหลายสิบปี
- ความสูงสูงสุด: 60 เมตร
- ลักษณะทั่วไป: เป็นต้นไม้ที่มีกิ่งก้านใบแผ่ออกลักษณะคล้ายกับฉัตร ใบเขียวอ่อน ใบแตกออกเป็นชั้นๆรูปสามเหลี่ยมในช่วงที่ต้นมีขนาดเล็ก เมื่อต้นมีขนาดโตเต็มที่แล้วจะมีในส่วนของเนื้อไม้ เป็นทรงพุ่มรูปกรวยเหมือนกับฉัตร ในส่วนส่วนของยอดจะเรียวแหลม มีลักษณะใบที่เป็นสีเขียวเข้ม
- อัตราการเจริญเติบโต: เป็นต้นไม้โตเร็ว
- ดิน: ไม่ชอบดินเหนี่ยว ต้นการดินที่มีอินทรียวัตถุ สามารถระบายน้ำและอากาศได้ดี
- น้ำ: สามารถทนแล้ง ไม่ชอบน้ำขัง แต่ชอบน้ำปานกลาง
- แสงแดด: รำไรหรือตลอดวัน ต้นที่โตเล้วต้องการแสงแดดเต็มวัน
- ขยายพันธุ์: ตอนกิ่งปักชำ และเมล็ด
- การใช้งานและอื่นๆ: สนฉัตร ปลูกเลี้ยงง่าย นิยมปลูกในกระถางตั้งประดับบ้าน หรือปลูกในมุมสวน
ข้อดีข้อเสีย ของ ต้นสนฉัตร มีอะไรบ้าง
การจะปลูกพืชหรือต้นไม้ในสวนสักต้นหรือการจะปรับตกแต่งสวนให้สวยงามและอยู่กับเราไปอย่างยาวนานการศึกษาในส่วนข้อดีและข้อเสียเป็นสวนสำคัญอย่างยิ่ง เพราะการเจริญเติมโตของต้นไม้ในแต่ละชนิดมีความแตกต่างกันออกไป ทำให้เราไม่จำเป็นต้องมาเสียเวลาในการรื้อถอนขุดเปลี่ยนบ่อยครั้งและเป็นการลดระยะเวลาและง่ายต่อการดูแลรักษาด้วย ดังนั้นทางแอดมินจึงขออธิบายข้อดีและข้อเสียอย่างคราวๆ เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจ
ข้อเสีย ต้นสนฉัตร หรือจุดด้วยในส่วนของต้นไม้ชนิดนี้
สำหรับต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นที่มีรูปทรงเป็นทรงพุ่มลักษณะความฉัตรเป็นต้นไม้ไม่ให้ร่มเงาสักเท่าไร และมีการเจริญเติบโตที่เร็ว การปลูกจึงต้องการมีการเว้นพื้นที่ให้การเจริญเติบโตด้วย เพราะมิฉะนั้นจะเป็นการแย่งพื้นที่และบดบั้งเนื้อที่ของต้นไม้ชนิดอื่นรวมถึงพื้นที่ในการใช้สอยภายในบริเวณด้วย การซื้อต้นไม้ล้อมมาปลูกในช่วงระยะ จำเป็นต้องใช้การรดน้ำบ่อย และมีความจำเป็นต้องรดน้ำให้ถึงในส่วนของยอดเพื่อรักษาความให้ของต้นสนฉัตรให้ได้มากที่สุด เพราะถ้าเรารดน้ำแค่ในส่วนของโค้นต้นแล้วความชื้อจะไม่เพียงพอ และนอกเหนือไปจากนั้นแล้ว ยังเป็นพืชที่ไม่ชอบน้ำขัง ไม่เหมาะกับการปลูกในดินเหนียว ความจะเป็นดินที่ร่วน และมีทางระบายน้ำให้กับต้นไม้
ข้อดีควรรู้และจุดเด่นของต้นไม้ชนิดนี้
ในส่วนของข้อดีของต้นไม้ชนิดนี้นั่นก็คือ ถึงไม้จะเป็นต้นไม้ที่มีการเจริญเติบโตที่เร็วก็เป็นไม้ที่ไม่ผลัดใบจึงทำให้ใบร่วงน้อย ไม่จำเป็นต้องทำความสะอาดบ่อย นอกจากนั้นแล้วด้วยลักษณะของใบที่เป็นใบละเอียด เป็นเส้นขน จึงทำให้สามารถที่จะดักจับฝุ่นได้เป็นอย่างดี สามารถดูดสารพิษได้เป็นอย่างดีเยี่ยม และที่สำคัญเป็นพืชที่แมลงรบกวนน้อย และที่สำคัญยังเป็นพืชที่มีสรรพคุณทางยางอีกด้วย ซึ่งในส่วนขอน้ำยางทางการแพทย์มีการนำน้ำยางใช้สำหรับทาแก้ฟกซ้ำ แก้ปวดเมื่อย และรักษาบาดแผล
ประโยชน์ของ สนฉัตร
สำหรับต้นไม้ชนิดนี้เป็นต้นไม้ที่ได้รับความนิยมปลูกไว้เพื่อประดับตกแต่งบริเวณสวนรอบบ้าน ไว้สำหรับฟอกอากาศ และจัดการฝุ่นละอองเพราะเป็นต้นที่มีคุณสมบัติในเรื่องนี้อยู่แล้ว ถึงแม้จะเป็นต้นไม้ที่ให้ร่มเง้าได้น้อย และด้วยลักษณะที่มีความเป็นเอกลักษณ์ในเรื่องความสวยงาม ไม่เหมือนกับต้นสนชนิดอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของกิ่งที่มีการเรียงกันเป็นชั้นๆ เหมือนฉัตร ใบสีเขียวสวยงาม ลำต้นเป็นพุ่ง เหมาะสำหรับการปลูกในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด สามารถปลูกในกระถ่างได้ด้วยเช่นเดียวกัน เป็นต้นไม้ที่มีความทนทานต่ออากาศแห้งและได้เป็นอย่างดีเยียมสน และในส่วนของน้ำยาว ที่มีสีค่อนข้างขาว มีกลิ่นหอมเป็นพิเศษ จึงได้รับความนิยมนำเป็นมาทำเป็นเทียนไข
นอกจากจะมีประโยชน์ในเรื่องของความสวยงามและเป็นไม้ฟอกอากาศแล้ว ยังมีคุณสมบัติในเรื่องของยาอีกด้วย โดยทางการแพทย์ได้มีการใช้น้ำยางของสนฉัตร มาใช้ทาแก้ฟกช้ำ แก้ปวดแก้เมื่อย รักษาบาดแผล และการทำให้แห้งก็จะใช้เป็นยาบรรเทาความเจ็บปวดได้ด้วย
ในส่วนของผลสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารได้
ในส่วนของต้น สามารถนำใช้ในส่วนของงานก่อสร้างตกแต่งอาคารบ้านเรือนได้อย่างสวยงามลงตัวอีกด้วยนั่นเอง
วิธีการปลูกต้นสนฉัตรที่ได้รับความนิยม
สำหรับการปลูกที่ได้รับความนิยมจะมีด้วยกันทั้งหมด 2 แบบด้วยกันซึ่งจะได้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับความต้องการของคนปลูก โดยมีวิธีการดังต่อไปนี้
- วิธีแรกเป็นวิธีการปลูกด้วยการเพาะเมล็ด ซึ่งจะทำให้คุณได้ต้นที่แข็งแรงมีการเจริบเติบโตได้อย่างรวดเร็ว และจได้กิ่งที่ออกเป็นแบบชั้นๆ เป็นระเบียบสวยงาม ขนาดของปล้องลำต้นจะมีความความยาว แต่วิธีนี้เหมาะกับการเพาะเพื่อจัดทำเป็นไม้ประดับ แต่เป็นการปลูกไว้ตามรั้วบ้าน ไม่เหมาะนำมาจัดในสวน เพราะมีข้อจำกัดในเรื่องของการควบคุมรูปทรงและขนาดของปล้องให้มีความสวยงามได้ และยิ่งปลูกนานๆไปต้นจะสูงอย่างรวดเร็วทรงไม่สวย เพราะต้นจะมีการเจริญเติมโตอย่างรวดเร็ว
- วิธีที่สองเป็นวิธีการปลูกแบบปักชำโดยสวนใหญ่แล้วจะเป็นการตัดกิ่งจากต้นที่ใช้วิธีการปลูกแบบเพาะเมล็ดมาทำการปักชำเพราะจะได้กิ่งที่มีความแข็งแรง และนำไปใช้ในการปลูกเพื่อเป็นไม้ประดับตกแต่งสวนต่างๆ เพราะการปลูกแบบชำจะมีการเจริญเติบโตช้า ลำต้นเตี้ย ชั้นของกิ่งและปล้องลำต้นมีความถี่เน่น ลำต้นไม่สูง อีกทั้งสีของใบขนาดของใบที่สวยกว่าจะการเพาะแบบเมล็ด ซึ่งจุดนี้เป็นข้อแตกแต่งของระหว่างการเพาะชำกับเมล็ด คือ ทรงพุ่มจะเตี้ย และมีจำนวนกิ่งเยอะกว่า แน่นอนว่าจะทำให้พุ่มสวยกว่าอีกด้วย